สาระสำคัญ
โน้ตบุ๊ก (Notebook) คือเครื่องคอมพิวเตอร์แบบพกพาชนิดหนึ่งที่สามารถพกพาไปในที่ต่าง ๆ ได้อย่างสะดวก แต่จะมีราคาสูงกว่าเครื่องคอมพิวเตอร์แบบซีพีเมื่อเปรียบเทียบรุ่นและสรรถนะการทำงานที่เท่ากัน ในปัจจุบันเครื่องคอมพิวเตอร์แบบโน้ตบุ๊กได้รับความนิยมจากลูกค้าเพิ่มมากขึ้นเนื่องจากสรรถนะการทำงานที่สูงขึ้นประกอบกับราคาที่ถูกลง
เรื่องที่จะศึกษา
- คอมพิวเตอร์
- วัสดุที่ใช้ทำตัวเครื่อง
- น้ำหนักของโน้ตบุ๊ก
- ส่วนประกอบ
- ซีพียู
- อุปกรณ์ชี้
- พอร์ตเชื่อมต่ออุปกรณ์ภายนอก
- ระบบเสียงและลำโพง
- แบตเตอรี่
- ระบบระบายความร้อน
- ไดร์ฟเก็บข้อมูล
จุดประสงค์การเรียนรู้
- บอกลักษณะของคอมพิวเตอร์แบบโน้ตบุ๊กได้
- อธิบายรายละเอียดวัสดุที่ใช้ทำตัวเครื่อง
- เขียนน้ำหนักของโน้ตบุ๊ก
- เขียนส่วนประกอบต่าง ๆ ของโน้ตบุ๊กได้
- เขียนลักษณะของซีพียู
- ใช้อุปกรณ์ชี้แบบต่าง ๆ ได้
- วาดรูปพอร์ตเชื่อมต่ออุปกรณ์ภายนอกได้
- บอกลักษณะระบบเสียงและลำโพงของโน้ตบุ๊กได้
- เขียนรายละเอียดของแบตเตอรี่ได้
- ใช้งานไดร์ฟเ็บข้อมูลแบบต่าง ๆ ได้
คอมพิวเตอร์แบบโน้ตบุ๊ก
เป็นไมโครคอมพิวเตอร์ขนาดเล็ก หรือขนาดพกพา หรือในบางครั้งเรียกว่าขนาดสมุดโน้ต เพราะสามารถพกพาติดตัวไปที่ต่าง ๆ ได้สะดวก ใช้ได้ทั้งกับไฟบ้านและแบตเตอรีคะ มีน้ำหนักประมาณ 1.5 - 3 กิโลกรัม จอภาพแสดงผลเป็นแบบราบชนิดมีทั้งแบบแสดงผลสีเดียว หรือแบบหลายสี โน้ตบุ๊คที่มีขายทั่วไปมีประสิทธิภาพและความสามารถเหมือนกับแล็ปท็อปนะคะ ปัจจุบันคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กกำลังได้รับความนิยมมาก เนื่องจากราคาที่ถูกลงกว่าในอดีต
วัสดุที่ใช้ทำตัวเครื่อง
นอกเหนือจากการที่เราจะซื้อโน้ตบุ๊กมาใช้งานซักหนึ่งเครื่อง สิ่งที่ต้องดูเป็นอันดับต้นๆ ก็คือ สเปกที่ใช้งานซึ่งประกอบไปด้วยชิปประมวลผล หน่วยความจำแรม หน่วยความจำสำรอง ชิปกราฟิการ์ด และอื่นๆ อย่างเช่นช่องทางพอร์ตการเชื่อมต่อ เป็นต้น
มาในตอนนี้เราจะพามาดูอีกส่วนประกอบหนึ่งในการเลือกซื้อโน้ตบุ๊ก อย่างวัสดุในการผลิตจนเป็นโน้ตบุ็กหนึ่งเครื่อง ที่หลักๆ แล้ววัสดุที่เราเห็นกันก็จะมี อาทิเช่น พลาสติก (มีทั้งแบบด้านและแบบมัน), อะลูมิเนียมอัลลอยด์ (อะลูนิเนียมผสมโลหะอื่น), แม็กนีเซียมอัลลอยด์ (แม็กนีเซียมผสมโลหะอื่น) และคาร์บอนไฟเบอร์ อีกทั้งในอนาคตเราอาจจะเห็นอีกหนึ่งวัสดุอย่าง ไฟเบอร์กลาส ในการมาเป็นวัสดุหลักในการประกอบเครื่อง Ultrabook ซึ่งมีคุณสมบัติในเรื่องของความแข็งแรงและน้ำหนักเบา แต่ก็อาจจะไม่ถึงขั้นของโลหะชนิดอื่นๆ ต่อไปเราก็จะมีดูกันว่า วัสดุแต่ละชนิดนั้นมีจุดเด่นและความน่าสนใจอย่างไรกันบ้าง
พลาสติก
เรียกได้พลาสติกนั้นว่าเป็นวัสดุที่ได้รับความนิยมสูงสุดในการประกอบเป็นเครื่องโน้ตบุ๊ก Mainstream (โน้ตบุ๊กขนาด 13, 14, 15 นิ้ว ที่เน้นใช้งานแทนคอมพิวเตอร์พีซีเป็นหลัก) ที่อาจจะเป็นพลาสติกแบบเกรดธรรมดา หรือคุณภาพสูงอย่าง ABS (มีทั้งแบบด้านและแบบมันวาว) โดยราคาของโน้ตบุ๊กที่ใช้พลาสติกเป็นวัสดุนั้นจะอยู่ในช่วงราคาตั้งแต่หมื่นบาทไปจนถึงหลายหมื่นบาทด้วยกัน ซึ่งของดีของการใช้พลาสติกเป็นวัสดุในการประกอบโน้ตบุ๊กสำหรับผู้ผลิตค่ายต่างๆ ก็คือ มีต้นทุนที่ถูกที่สุด รวมไปถึงสามารถขึ้นรูปทรงได้ง่าย ถ่ายเทความร้อนได้งดี (ไม่อมความร้อน) ถึงว่าความแข็งแรงทนทานอาจจะมีไม่มากนัก สามารถใช้งานทั่วไปได้อย่างสบายๆ อย่างไม่ต้องกังวล แต่ก็อาจจะมีข้อสังเกตอยู่ว่า หากใช้ไปนานๆ อาจจะมีอาการกรอบ ทำให้แตกหักได้ง่าย รวมไปถึงสีสันที่เคลือบเอาไว้อาจจะหลุดลอกได้
ที่ส่วนมากหรือเกือบ 100% ของโน้ตบุ๊กทั้งหมดที่ใช้พลาสติกเป็นส่วนประกอบนั้น จะเน้นไปในเรื่องของความคุ้มค่าในส่วนของสเปกและราคาเป็นหลัก ซึ่งในการใช้งานจริงๆ วัสดุอย่างพลาสติกอาจจะไม่ได้ให้ในเรื่องของความที่เป็นวัสดุระดับสูงนัก แต่ก็ถือว่าเหมาะสมกับคนที่ไม่เน้นในเรื่องของวัสดุในการประกอบ เพราะหากเทียบโน้ตบุ๊กเสปกเดียวกัน ที่ต่างกันด้วยวัสดุและดีไซน์ล่ะก็ จะเห็นว่าโน้ตบุ๊กที่ใช้วัสดุเป็นพลาสติกนั้นจะมีราคาถูกกว่าร่วมหมื่นบาทเลยทีเดียว
ซอฟท์ทัช
ซอฟท์ทัช (Soft Touch) เป็นวัสดุประเภทพลาสติกกึ่งยางที่เกิดจากกระบวนการฉีดพลาสติกเข้าสู่แม่พิมพ์แล้วทำการรีดผ่านโรลเย็น โดยวิธีการทำนั้นต้องอาศัยเวลาและน้ำหนักการดึงที่พอดี ไม่เช่นนั้นพื้นผิวยางจะเกิดความเสียหายได้ โดยหลังจากผ่านกระบวนการข้างต้นแล้วก็จะเข้าสู่กระบวนการ Thermoforming ที่เป็นกระบวนการขึ้นรูป ให้พลาสติกขึ้นรูปเป็นรูปแบบต่างๆ ได้ด้วย
4. ส่วนประกอบ
นับว่าเป็นอุปกรณ์ที่มีบทบาทสำคัญ และปัจจัยหนึ่งไปแล้ว สำหรับเครื่องคอมพิวเตอร์ที่มีขนาดพกพา หรือที่เรียกว่าคอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊ค ถึงแม้ปัจจุบันจะมีกระแสแท็บเล็ตที่มีความสามารถมาก ให้ผู้ใช้เลือกใช้ แต่ความสามารถก็ยังไม่เจ๋งเท่าเครื่องคอมพิวเตอร์ และโดยเฉพาะที่เป็นแบบโน๊ตบุ๊คแล้ว ทุกวันนี้เรียกได้ว่าประสิทธิภาพถูกพัฒนาขึ้นมาก ทั้งความเร็วและความแรง ให้งานได้ดีและเหมาะสมกว่าเครื่องแบบพีซีด้วยซ้ำไป แถมราคาก็ยังถูกลงมากเมื่อเทียบกับเมื่อก่อน ดังนั้นจึงไม่แปลกที่จะเป็นที่นิยม และมีผู้ใช้งานเป็นจำนวณมาก วันนี้ i7 จึงขอนำเสนอบทความที่อาจมีประโยชน์กับผู้ใช้มือใหม่หลายๆท่าน ที่บางคนอาจจะไม่รู้จักส่วนประกอบของคอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊กที่ตัวเองซื้อมา และแต่ละอย่างมันทำหน้าที่อะไรบ้าง
ส่วนประกอบของคอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊ค
จากภาพประกอบ i7 จะพูดถึงรายละเอียดคร่าวๆ พอให้รู้จักส่วนต่างๆ กันไปก่อน แล้วจะค่อยๆเจาะลึกแต่ละส่วน
A : หน้าจอแสดงผล หรือจอแอลซีดี(LCD) สำหรับแสดงผลให้เราสามารถติดต่อและทำงานกับเครื่องคอมพิวเตอร์ได้
B : กล้องเว็บแคม ส่วนมากโน๊ตบุ๊ครุ่นใหม่ๆ จะมีมาให้ด้วยเสมอ กล้องนี้ก็มีไว้สำหรับใช้สนทนาผ่านกล้องเว็บแคม หรือวิดีโอคอลเป็นต้น
C : ปุ่มเปิดเครื่อง สำหรับปุ่มเปิดเครื่องแต่ละรุ่น ก็อาจจะอยู่ตำแหน่งที่ต่างกัน
D : คีย์บอร์ด สำหรับพิมพ์ หรือป้อนข้อมูลเข้าไปยังเครื่องคอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊ค
E : ทัชแพ็ด (Touchpad) คือเมาส์แบบทัชแพ็ด สำหรับควบคุมเคอร์เซอร์ในการทำงาน
F : ปุ่มกดคลิ๊กซ้าย/ขวา ใช้สำหรับคลิ๊ก และคลิ๊กขวา ตามลำดับ เหมือนกับการใช้ในเมาส์แบบทั่วๆไป
G : พอร์ท USB 3.0 สำหรับเครื่องคอมพิวเตอร์แบบใหม่ๆ จะมีพอร์ทที่รองรับ USB 3.0
H : ออปติคอลไดรว์ หรือ DVD Drive สำหรับอ่าน CD/DVD หรือแผ่นดิสก์ทั่วไป
I : ช่องเสียบ USB
J : ช่องเสียบสายชาร์จโน๊ตบุ๊ค
K : ช่องระบายความร้อน
L : พอร์ตเสียบสายแลน (Ethernet RJ-45)
M : พอร์ต VGA สำหรับกับจอแสดงผลภายนอก
N : พอร์ตต่างๆ เช่น USB ช่องเสียบไมโครโฟน ช่องเสียบลำโพง เป็นต้น
หมายเหตุ * ตำแหน่งที่ัตั้งของส่วนประกอบของคอมพิวเตอร์แต่ละรุ่นอาจแตกต่างกันไป
ซีพียู (CPU)
CPU หรือ Central Processing Unit เป็นหัวใจหลักในการประมวลของคอมพิวเตอร์ โดยพื้นฐานแล้วซีพียูทำหน้าที่ประมวลผลข้อมูลเชิงคณิตศาสตร์และข้อมูลเชิงตรรกะเท่านั้น แต่ทำไมการคำนวณขนาดนี้ ต้องมีการพัฒนาซีพียูกันไม่หยุดหย่อน ย้อนกลับไปปี 1946 คอมพิวเตอร์ยุคแรกที่มีชื่อที่พอจะจำได้ก็คือ ENIVAC นั้นทำงานโดยใช้หลอดไดโอด ซึ่งสถานะการทำงานของหลอดพวกนี้ มีสองอย่าง คือ 1 กับ 0 จะมีค่าเป็น 1 เมื่อมีกระแสไหลผ่านและเป็น 0 เมื่อไม่มีกระแสไหลผ่าน นั่นจึงเป็นเหตุผลให้คอมพิวเตอร์ใช้เลขฐาน 2 ในการคำนวณ ครั้นต่อมาวิทยาการก้าวหน้าขึ้นเรื่อยๆ จากหลอดไดโอดก็พัฒนาเป็นทรานซิสเตอร์ และจากทรานซิสเตอร์ก็พัฒนาเป็นวงจรขนาดเล็ก ซึ่งรู้จักกันในชื่อของ IC และในที่สุดก็พัฒนาเป็น Chip อย่างที่เรารู้จักกันมาจนปัจจุบันนี้
สิ่งที่ผู้ผลิตซีพียูพยายามเพิ่มก็คือ ประสิทธิภาพในการประมวลผลของซีพียู เมื่อกล่าวถึงซีพียูและการประมวลผล สิ่งหนึ่งที่เราต้องเข้าใจคือภายในซีพียูไม่มีหน่วยเก็บข้อมูลสำหรับเก็บข้อมูลปริมาณมากๆ และซีพียูในยุคแรกๆ ก็ไม่มี Cache ด้วยซ้ำไป ปัจจัยที่มีผลต่อความเร็วของซีพียูก็คือ ความเร็วในการประมวลผลและความเร็วในการโอนย้ายข้อมูล ซีพียูในยุคแรกๆ นั้นประมวลผลด้วยความเร็ว 4.77 MHzและมีบัสซีพียู (CPU BUS) ความกว้าง 8 บิต เรียกกันว่าซีพียู 8 บิต (Intel 8080 8088) นั้นก็คือซีพียูเคลื่อนย้ายข้อมูลครั้งละ 1 ไบต์ ยุคต่อมาเป็นซีพียู 16 บิต 32 บิต และ 64 บิต ปัจจุบันโดยเฉพาะซีพียูรุ่นใหม่ๆ เคลื่อนย้ายข้อมูลครั้งละ 128 บิต ในการเคลื่อนย้ายข้อมูลนั้น เกิดขึ้นจากการควบคุมสัญญาณนาฬิกา ซึ่งนับสัญญาณเป็น Clock 1 เช่น ซีพียู 100 MHz หมายความว่าเกิดสัญญาณนาฬิกา 100 ครั้งต่อวินาที
พอร์ตเชื่อมต่ออุปกรณ์ภายนอก
พอร์ต USB
พอร์ตยูเอสบี เป็นพอร์ตแบบใหม่ล่าสุด ที่ถูกออกแบบมาให้ใช้กับพีซีคอมพิวเตอร์ ให้สามารถรับส่งข้อมูลให้รวดเร็วขึ้น สามารถต่ออุปกรณ์ได้มากถึง 127 ชิ้น เพราะมีแบนด์วิดธ์ในการรับส่งข้อมูลสูงกว่า พอร์ตแบบนี้ถูกออกแบบมาให้ใช้กับระบบปลั๊กแอนด์เพลย์บนวินโดวส์ 98 ปัจจุบัน มีฮาร์ดแวร์จำนวนมากที่สนับสนุนการเชื่อมต่อแบบนี้ เช่น กล้องดิจิตอล เมาส์ คีย์บอร์ด จอยสติ๊ก สแกนเนอร์ ซีดีอาร์ดับบลิว เป็นต้น สำหรับคอมพิวเตอร์รุ่นใหม่ ๆ จะมีพอร์ตแบบนี้จะมีพอร์ตแบบนี้อยู่ในเครื่องเรียบร้อยแล้ว
• คอมพิวเตอร์ปกติจะมี 2 USB Port ถ้าเป็นเครื่องรุ่นเก่าที่ไม่มี USB สามารถหาซื้อการ์ด USB มาติดตั้งได้
• เป็นช่องสี่เหลี่ยมเล็ก ๆ สูงประมา 3-5 มิลลิเมตร ยาวประมาณ 1-2 เซ็นติเมตร
• พอร์ตชนิดใหม่รับส่งความเร็วได้สูงกว่า port ทั่ว ๆ ไป
• สามารถเชื่อมต่ออุปกรณ์ต่อเนื่องได้ 127 ตัว
• เป็นมาตราฐานใหม่ที่มีมากับเครื่องคอมพิวเตอร์
• การติดตั้ง เพียงต่ออุปกรณ์เข้ากับ USB port ก็สามารถใช้งานอุปกรณ์นั้นๆ ได้ โดยไม่จำเป็นต้อง boot เครื่องใหม่
พอร์ตอนุกรม
เป็นพอร์ตสำหรับต่อกับอุปกรณ์อินพุตและเอาต์พุต โดยส่วนใหญ่เราจะใช้สำหรับต่อกับเมาส์ในกรณีที่คอมพิวเตอร์เครื่องนั้นไม่มีพอร์ต PS/2 หรือเป็นเคสแบบ AT นอกจากนั้นเรายังใช้สำหรับเป็นช่องทางการติดต่อโมเด็มด้วย ในคอมพิวเตอร์หนึ่งเครื่องจะมีพอร์ตอนุกรมให้อยู่สองพอร์ต เรียกว่าพอร์ตคอม 1 และพอร์ตคอม 2 นอกจากนั้นอาจจะมีฮาร์ดแวร์บางตัว เช่น จอยสติ๊กรุ่นใหม่ ๆ มาใช้พอร์ตอนุกรมนี้เช่นกัน
• พอร์ตอนุกรมจะมีหัวเข็ม 9 เข็ม หรือ 25 เข็ม (พอร์ตนี้จะเป็นตัวผู้ เพราะมีเข็มยื่นออกมา)
• พอร์ตนี้จะต่อกับอุปกรณ์ต่าง ๆ เช่น เม้าส์ โมเด็ม สแกนเนอร์ เป็นต้น
• สามารถต่อความยาวได้ถึง 6 เมตร และราคาสายก็ไม่แพงนัก
พอร์ตขนาน
หน้าที่ของพอร์ตตัวนี้ก็คือใช้สำหรับติดต่อกับเครื่องพิมพ์เป็นหลัก ปัจจุบันมีการพัฒนาให้สามารถใช้งานร่วมกับสแกนเนอร์ หรือว่าไดรฟ์ซีดีอาร์ดับบลิวได้ด้วย พอร์ตแบบนี้มีขนาดยาวกว่าพอร์ตอนุกรมทั่ว ๆ ไป โดยมีจำนวนพินเท่ากับ 25 พิน สังเกตได้ง่าย
• พอร์ตขนานจะมีรู 25 รู (พอร์ตนี้จะเป็นตัวเมีย หมายถึงมีรูที่ตัวพอร์ต)
• พอร์ตนี้จะต่อกับอุปกรณ์ต่าง ๆ เช่น เครื่องพิมพ์ เทปไดร์ฟ สแกนเนอร์ เป็นต้น
• สามารถต่อความยาวไม่มากนัก แถมมีราคาแพงกว่าสายของพอร์ตอนุกรมด้วย
• การส่งสัญญาณจะส่งได้เร็วกว่าพอร์ตอนุกรม
แบตเตอรี่
อุปกรณ์อย่างหนึ่งที่ใช้เก็บพลังงาน และนำมาใช้ได้ในรูปของไฟฟ้าแบตเตอรี่นั้นประกอบด้วยอุปกรณ์ไฟฟ้าเคมี เช่น เซลล์กัลวานิกหรือเซลล์เชื้อเพลิง อย่างน้อยหนึ่งเซลล์
เชื่อกันว่าหลักฐานชิ้นแรกสุดที่เป็นไปได้ว่าจะเป็นแบตเตอรี่ในประวัติศาสตร์โลก คือ วัตถุที่เรียกว่าแบตเตอรี่แบกแดด (Baghdad Battery) คาดว่ามีอายุในช่วง 250 ปีก่อนคริสตกาล ถึงคริสต์ศักราช 640 สำหรับพัฒนาการของแบตเตอรี่ในยุคใหม่นั้น เริ่มต้นที่ ที่พัฒนาขึ้นโดยนักฟิสิกส์ชาวอิตาลี นามว่า
เมื่อ ค.ศ. 1800 ปัจจุบันนี้อุตสาหกรรมแบตเตอรี่ทั่วโลกสามารถสร้างรายได้จากการขายปีละ 4.8 หมื่นล้านดอลาร์สหรัฐเลยทีเดียว
ระบบระบายความร้อน
โน๊ตบุ๊กปัจจุบันนิยมใช้ซีพียูที่มีความเร็วสูงระดัวกิกะเฮิร์ตขึ้นไป เช่นเดียวกับซีพียูของคอมพิวเตอร์ระบบซีพี เพราะฉนั้นจำเป็นจะต้องทำการติดตั้งพัดลมระบายความร้อนเพื่อช่วยระบายความร้อนให้เครื่องมีเสถียรภาพในการทำงานดีขึ้น โดยทั่วไปบริษัทผู้ผลิตจะออกแบบช่องดูดอากาศและช่องเป้าความร้อนออกจากเครื่องไว้บริเวณด้านข้างของโน้ตบุ๊ก
ไดร์ฟเก็บข้อมูล
โน้ตบุ๊กส่วนใหญ่จะตั้งดิกส์เก็ตไดร์ฟขนาด 3.5 นิ้ว เพื่อให้ใช้งานร้วมกันกับแผ่นดิสก์ที่จุข้อมูล 1.44 MB ได้ แต่บางรุ่นก็ไม่ได้ติดตั้งมาให้ ถ้าต้องการใช้งานจะต้องนำมาเชื่อต่อผ่านพอร์ตอนุกรมอีกทีหนึ่ง แต่ไดร์ที่นิยมติดตั้งให้กับโน้ตบุ๊กทุกเครื่องคือไดร์ฟแบบซีดีรอม
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น